6 วิธีเลือกเล่น NFT เกม Play-to-Earn สำหรับมือใหม่
กระแสคริปโตเคอเรนซี่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งหลังจาก Bitcoin ราคากลับมาทำ All time high อีกครั้งหลังจากทำไปก่อนหน้าเมื่อช่วงต้นปี 2021 และปรับฐานไปพักใหญ่ ล่าสุดทำสถิติราคายืนเหนือ 64,000 USD : 1 BTC ส่งผลให้ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับคริปโตกลับมาคึกคึกอีกรอบ
แวดวง เกม NFT ก็ถือเป็นอีกหนึ่งที่ด้รับอานิสงส์ในครั้งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้ากระแสจุดติดมาสักพักแล้วก็ยิ่งทวีความนิยมมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะ เกม NFT ในรูปแบบ Play to Earn หรือเล่นเกมส์แล้วได้รับโทเค็นเหรียญคริปโตเป็นรางวัลนั่นเอง ซึ่งดึงดูดให้นักเล่นเกมส์ตัวยงรวมถึงนักลงทุนที่ต้องการทำกำไรจากมูลค่าของเหรียญที่จะได้รับภายในเกมส์อีกด้วย วันนี้เราจะมาพิจารณากันว่า “5 วิธีเลือก เกม NFT ในแบบ Play-to-Earn สำหรับมือใหม่” นั้นต้องมีอะไรบ้าง
1. เลือกเกมส์ที่มีระบบไม่ซับซ้อนจนเกินไป การออกแบบ UX/UI เป็นมิตรกับผู้ใช้
ระบบที่มีความซับซ้อนหรือเข้าใจได้ยากจนเกินไป ทั้งในเรื่องของการการออกกแบบและดีไซน์จะทำให้ผู้เล่นนั้นเบื่อหน่ายทำให้ผู้เล่นเก่าจะทะยอยเลิกเล่น และยังจูงใจให้เกิดผู้เล่นใหม่ ๆเ เข้ามาในเกมส์ได้ยาก
2. ตัวเกมส์มีการอัพเดทอย่างต่อเนื่องจากทีมงาน มี Roadmap ชัดเจน
การอัพเดทรวมถึงฟีเจอร์ใหม่ควรได้รับการอัพเดทอย่างต่อเนื่อง หากทีมงานมีการเขียน Roadmap เราควรศึกษาว่ามีอะไรบ้างและทีมงานามารถทำได้จริงตามที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่
3. มีเหรียญมากกว่า 1 เหรียญ
เกม NFT ในรูปแบบ Play to Earn หากมีเหรียญที่จะได้รับในเกมส์เพียงเหรียญเดียวอาจจะไม่ได้เรียกว่าเป็นข้อเสียเสมอไป แต่หากเกมใดมีเหรียญมากกว่า 1 เหรียญเราถือว่าเป็นข้อได้เปรียบเพราะ อย่างน้อยการมีเหรียญ 2 เหรียญหากทีมงานมีการปรับสมดุลการได้รับเหรียญระหว่างเหรียญหลัก และ Governance tokens ซึ่งมักจะมีค่อนข้างสูงจะส่งผลให้ Life cycle ของตัวเกมส์มีอายุนานขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
4. มี Tokenomics หรือกลไกในการควบคุมปริมาณเหรียญที่แข็งแกร่ง
Tokenomics ในแวดวงคคริปโตเคอเรนซี่ คือ การรักษาสมดุลของปริมาณและความต้องการในระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Ecosystem ของตัวเกม NFT ที่หากปล่อยให้มีการสร้างโทเค็นออกมาเป็นจำนวนมากหรือเพิ่มขึ้นในเวลาที่รวดเร็วจนเกินไป โดยไม่สัมพันธุ์กับปริมาณผู้เล่นจนเกิดภาวะ Inflation หรือ เหรียญเฟ้อจนเกินไป ซึ่งจะส่งผลให้มูลค่าของเหรียญที่เราได้รับจากการ Play to earn นั่นค่อย ๆ ลดมูลค่าลงและท้ายที่สุดอาจจะมีค่าเท่ากับ 0 ก็เป็นได้
5. สามารถเล่นได้บนหลายแพลตฟอร์ม
ปัจจุบันพีซียังถือเป็นแพลตฟอร์มหลักของเหล่าเกม NFT แต่เราก็เเริ่มเห็นเกมส์ที่ออกมาหลังๆ มักจะสามารถเล่นในแบบ cross-platform หรือ สามารถเล่นได้ในหลายแพลตฟอร์มอาทิ มือถือ ทั้ง Android และ iOS , แท็ปเล็ต ซึ่งแน่นอนการรองรับหลายแพลตฟอร์มนั้นถือเป็นข้อดีอย่างมากสำหรับเกมส์แนว Play-to-Earn เพราะเราสามารถเล่นได้ในทุกที่ทุกเวลา
6. เหรียญหรือโทเค็นที่ได้จากตัวเกมส์ มีลิสต์อยู่ในหลาย Exchange
เราสามารถ Swap เหรียญได้จากการเล่นเกม ด้วย DeFi ก็จริงอาทิ UniSwap , SushiSwap หรือ Pancakeswap ซึ่งโดยปกติเกม NFT ที่พึ่งเริ่มต้นมักจะยังไม่ได้ถูกลิสต์บน Exchange ต่าง ๆ แต่ถ้าหากเหรียญใดได้รับการลิสต์นับตั้งแต่วันแรก ๆ หรือเพียงไม่นานนับจากวันเปิดตัว เราก็มองได้ว่าตัวเกมส์นั้นได้รับความนิยม และสร้างความเชื่อมันให้กับเหลา Exchange ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลในด้านราคาของเหรียญในอนาคตอีกด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นเพียงปัจจัยบางส่วนที่เราควรทำความเข้าใจก่อนเลือกเล่น NFT เกมที่เป็นแบบ Play-to-Earn สักเกมส์ เพราะฉะนั้นเราควรศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะเล่นเพราะการเล่นเกม NFT นั้นจำเป็นที่จะต้องลงทุนก่อนเสมอมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับตัวเกมส์นั้น ๆ ยิ่งเราศึกษามากโอกาสทำกำไรก็จะตามมาเอง 🙂