แฟนเกมส์พีซีคงคุ้นชินกันดีกับการเล่นเกมส์ด้วยภาษาอังกฤษ ทั้งในเรื่องเสียงพากย์หรือเมนูต่าง ๆ ภายในเกมส์ แต่สำหรับภาษาไทยเราอาจจะยังไม่เห็นได้มากนัก แม้ในตอนหลังเราเริ่มเห็นมีหลายเกมส์เริ่มเพิ่มภาษาไทยในส่วนของเมนูหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ภายในเกมส์ รวมถึงการเพิ่มคำบรรยายในรูปแบบภาษาไทยเข้าไป
ในอนาคตเราหวังว่าจะมีเกมพีซี ดี ๆ ที่ออกมาพร้อมกับการรองรับภาษาไทยมาตั้งแต่ต้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคำบรรยายและเสียงพากย์ในรูปแบบภาษาไทย โดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Mod กันอีก (ไม่ได้มีทุกเกมส์จะมี Mod Thai)
การมีซับไทยช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมส์ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเกมที่เน้นบทสนทนาหรือมีเนื้อเรื่องขนาดยาวภาษาไทยยิ่งมีความจำเป็นกับนักเล่นเกม เพราะใช่ว่าทุกคนนั้นจะเข้าใจภาษาอังกฤษได้อย่างแตกฉาน ด้วยเพราะภาษาอังกฤษนั้นไม่ใช่ภาษาแม่ของเรานั่นเอง
วันนี้เราจะมาแนะนำ “10 เกมพีซีน่าเล่น บน Steam มีซับไทย” บนสตรีมร้านขายเกมส์ออนไลน์ชื่อดังที่มาพร้อมกับซับไทย ว่าจะมีเกมส์ไหนกันบ้าง
1. Sekiro: Shadows Die Twice
แนวเกมส์ : Action
ปีที่วางจำหน่าย : 2019
สตูดิโอพัฒนา : FromSoftware
คอเกมประวัติศาสตร์กดถูกใจสิ่งนี้ !! เป็นเกมส์ที่ดำเนินเรื่องใน ยุคเซ็งโงกุ ของประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์ความวุ่นวายของการแก่งแย่งอำนาจเพื่อขึ้นจะเป็นใหญ่ของเหล่าไดเมียว มีตัวเอกของเรื่องนาม “Sekiro” ซามูไรที่มาพร้อมแขนกล ออกแก้แค้นเหล่าซามูไรและพาตัวเจ้านายของเขากลับมา การันตีความยอดเยี่ยมจาก 2 รางวัลคือ “เกมส์ยอดเยี่ยมประจำปี 2019” และ “เกมส์แอคชั่นยอดเยี่ยม 2019”
2. ONE PIECE: PIRATE WARRIORS 4
แนวเกมส์ : Action/Adventure
ปีที่วางจำหน่าย : 2020
สตูดิโอพัฒนา : Koei Tecmo
อีกหนึ่งเกมส์ที่สร้างมาจากแอนิเมะดังอย่าง One Piece ผลงานของยอดนักเขียน เออิจิโร่ โอดะ และตัวเกมส์ One Piece: Pirate Warriors ก็ไม่น้อยหน้าทำยอดขายทั่วโลกไปกว่า 5 ล้านก็อปปี้ จุดเด่นของตัวเกมส์ One Piece: Pirate Warriors คือตัวละครที่ยกเซ็ตมาจากมังงะ อาทิ ลูฟี่ โซโล ซันจิ หรือนามิแสนสวย และมาพร้อมฉากแอคชั่นมันส์ ๆ ในเกมส์ใครเป็นแฟนคลับของ “วันพีซ” ต้องไม่พลาด
3. Cyberpunk 2077
แนวเกมส์ : Action-Adventure/Openworld
ปีที่วางจำหน่าย : 2020
สตูดิโอพัฒนา : CD PROJEKT RED
แม้จะสร้างความผิดหวังให้กับสาวกหลังจากรอคอยมาอย่างยาวนานใน “Day 1” สำหรับเกมฟอร์มยักษ์ “Cyberpunk 2077” ของค่าย CD PROJEKT RED ที่เปิดตัวมาพร้อมสารพัดบั๊คและปัญหาภายในเกมส์ หลังจากเลื่อนมาหลายรอบแล้วยิ่งส่งผลให้ตัวเกมส์ถูกวิจารณ์และคอมเม้นท์ในเชิงลบอย่างหนักหน่วง บางคนถึงกับเลิกเล่นกลางคันไปบ้างก็มี
แต่หลังผ่านมาระยะหนึ่งตัวเกมส์ได้รับแพทซ์แก้ปัญหา พัฒนาอย่างต่อเนื่องและแก้ปัญหาที่ได้รับรายงานมาจากทั้งนักเล่นเกมส์รวมถึงทีมงานเอง จนกลับมาได้รับเรทติ้ง “Mostly Positive” บนสตรีม
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวเกมส์ Cyberpunk 2077 นั้นถือเป็นเกมส์ที่ดีอีกเกมส์หนึ่งทีเดียว จุดเด่นของตัวเกมส์คือฉากสวย ๆ ในเกมส์เป็นโลกแห่งอนาคต ฉากแอคชั่นกับคัทซีนเท่ห์ๆ สำหรับสายเสพเนื้อเรื่องอาจจะยังไม่จุใจนักเพราะสำหรับเนื้อเรื่องหลัก Cyberpunk 2077 ค่าเฉลี่ยชั่วโมงจากผู้เล่นอยู่ที่ประมาณ 23 ชั่วโมง ( ข้อมูลจาก howlongtobeat.com )
4. Resident Evil Village
แนวเกมส์ : Action
ปีที่วางจำหน่าย : 2021
สตูดิโอพัฒนา : CAPCOM
จากแฟรนไชส์ดัง Resident Evil ทาง CAPCOM ส่งเกมส์ Resident Evil Village แนวแอคชั่น-เขย่าขวัญในรูปแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่มาพร้อมกราฟฟิคและเนื้อเรื่องที่สมบูรณ์แบบจนสามารถคว้ารางวัลเกมส์ยอดเยี่ยมประจำปี 2021 ไปครอง หรือ Steam Awards 2021 ซึ่งมาจากการโหวตของแฟนเกมส์จากทั่วโลก
5. Doraemon Story of Seasons
แนวเกมส์ : Farming/Simulation/RPG
ปีที่วางจำหน่าย : 2019
สตูดิโอพัฒนา : Marvelous Inc., Brownies Inc.
อีกตัวการ์ตูนที่คนไทยเราคุ้นเคยกันดีอย่างโดราเอม่อนและโนบิตะนำทีมผองเพื่อนสู่เกมส์ Doraemon Story of Seasons เกมส์ทำฟาร์ม ปลูกผัก ทำสวน ตกปลาและปฏิบัติภารกิจภายในเกมส์
จุดเด่นของเกมส์คือภาพและงานกราฟฟิคที่ให้อารมณ์ในแบบการ์ตูนที่เราคุ้ยเคย ทำให้โทนของเกมส์ออกมาน่ารักสบาย ๆ โดย Doraemon Story of Seasons ถึงจะมีบทพูดค่อนข้างเยอะแต่โดยรวมก็ไม่ถือว่ายากหรือยาวจนเกินไปนักถ้าเป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะเกมส์นี้มาพร้อมกับซับไทยตั้งแต่ต้นสบายใจได้ 🙂
6. Tribes of midgard
แนวเกมส์ : Action-Adventure/RPG
ปีที่วางจำหน่าย : 2021
สตูดิโอพัฒนา : Norsfell
เกมส์เอาตัวรอดในแบบ Open world ที่มาในธีมของนักรบไวกิ้งแห่ง “เผ่ามิดการ์ด” ตัวละครแบ่งออกเป็นอาชีพในแต่ละคลาส มาพร้อมระบบ co-op สามารถรองรับผู้เล่นมากสูงสุดถึง 10 คนด้วยกัน เน้นเดินลุยเผชิญหน้ากับเหล่ามอนสเตอร์ ที่มีทั้งเผ่ายักษ์ เผ่าปิศาจหรือแม่กระทั้งเผ่าเทพ และต้องออกสำรวจไปยังดินแดนต่าง ๆ ภายในตัวเกมส์
7. Journey
แนวเกมส์ : Adventure
ปีที่วางจำหน่าย : 2020
สตูดิโอพัฒนา : Thatgamecompany
ผลงานจากสตูดิโอเกมอินดี้อย่าง Thatgamecompany กับภารกิจออกสำรวจโลกในยุคโบราณมีธีมหลักอยู่บนทะเลทราย นอกจากฉากอันสวยงามแล้วอีกหนึ่งจุดเด่นของเกม Journey คือเพลงประกอบที่ฟังเพลินและการันตีความไพเราะจากการเข้าชิงรางวัลแกรมมี่อีกด้วย
8. Green Hell
แนวเกมส์ : Survival/Action
ปีที่วางจำหน่าย : 2019
สตูดิโอพัฒนา : Creepy Jar
คอเกมส์เอาชีวิตรอดคงไม่มีใครไม่รู้จัก Green Hell ที่ผู้เล่นต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดในป่าบนเกาะร้าง เราต้องเอาชีวิตรอด้วยการคราฟต์เครื่องมือและฟาร์มอาวุธขึ้นมาเองเพื่อออกล่าอาหารและสังหารศัตรู โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่เราต้องเผชิญในขณะนั้น ตัวเกมส์ Green Hell เป็น Openworld ใช้มุมมองในแบบบุคคลที่หนึ่ง ตัวเกมรองรับเมนูและคำบรรยายไทย
9. Half-Life: Alyx
แนวเกมส์ : Action-Adventure
ปีที่วางจำหน่าย : 2020
สตูดิโอพัฒนา : Valve
Half-Life: Alyx เป็นเกมส์ในรูปแบบ VR หรือ virtual reality (ต้องมีอุปกรณ์รองรับ VR) โดยเนื้อเรื่องจะเป็นการผสมผสานระหว่าง Half-Life และ Half-Life 2 เข้าด้วยกัน โดยเนื้อเรื่องหลักพระเอกจะต้องต่อสู้กับกองกำลังจากนอกโลก
โดยเนื้อหาอาจจะไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่ เนื่องด้วยตัวเกมส์นั้นต้องการขายความเป็น VR ดังนั้นลูกเล่นหรือมุมกล้องต่างๆ ก็จะหนักไปทางโชว์ของนิดนึงแต่โดยรวมถือเป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่น่าเล่น
10. ARK: Survival Evolved
แนวเกมส์ : Action/Survival/Co-op
ปีที่วางจำหน่าย : 2017
สตูดิโอพัฒนา : Studio Wildcard
อีกหนึ่งเกมส์เอาตัวรอดที่มีความโดดเด่นของรูปแบบการเล่น ธีมหลักคือโลกในยุคดึกดำบรรพ์ ผู้เล่นจะต้องเอาตัวรอดจากเราหล่าสรรพสัตว์ดึกดำบรรพ์ต่าง ๆ ตัวเกมส์มาในรูปแบบ Openworld เราสามารถจับมาเลี้ยงและขี่เจ้าไดโนเสาร์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย ไม่ได้มีแต่แค่มุมแอคชั่นจากการต่อสู้กับเจ้าสัตว์โลกล้านปีเท่านั้น
ภายในเกมส์ ARK: Survival Evolved เรายังสามารถสร้างบ้านหรือที่อยู่ใหักับเหล่าได่โนเสาร์ของเราได้อีกด้วย โดยระบบเกมส์จะเป็นเก็บ Exp เพิ่มสกิลและฟาร์มของไปเรื่อย ๆ เพื่อให้สามารถเอาตัวรอดให้ได้นั่นเอง ตัวเกมส์ยังรอบรับการเล่นในแบบออนไลน์ Co-op สูงสุด 4 คน
มาอุดหนุนเกมส์ลิขสิทธิ์กันเถอะ
การที่เหล่าเกมส์ดังหรือเกมส์ใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มพีซี จะยอมรับภาษาไทยและพัฒนาภาษาไทยเพิ่มเข้าไปในตัวเกมส์ตั้งแต่ “Day 1” สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ เราไม่ใช่ฐานลูกค้าเบอร์ต้น ๆ ที่มีปริมาณผู้เล่นเป็นจำนวนมากอย่างประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลาย ดังนั้นการจะเพิ่มเนื้อหาในส่วนนี้จำเป็นที่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเข้ามา ดังนั้นสตูดิโอเกมส์ จะต้องพิจารณาตรงส่วนนี้ควบคู่ไปด้วยว่าคุ้มค่าแค่ไหนที่จะทำ
ดังนั้นผมจึงอยากให้เหล่าเกมส์เมอร์ชาวไทยทุกคนช่วยกันสนับสนุนเกมส์พีซีลิขสิทธิ์ทุกครั้ง เพื่อที่ว่าหากเรามีฐานผู้เล่นขนาดใหญ่ขึ้นและสนับสนุนสินค้าลิขสิทธิ์อย่างสม่ำเสมอ ผมเชื่อว่าในอนาคตค่ายเกมส์จะต้องมองประเทศไทยเราเป็นอีกหนึงตัวเลือกในการที่จะทำคอนเทนต์เพื่อรองรับอย่างแน่นอน 🙂
